สอนลูกให้รู้จักออมจากการขายลูกอม 3 เม็ด 5 บาท

kid1

หากเราพูดถึงคำว่า อดออม ภาพที่ออกมาน่าจะไปในทางเราคงต้องไม่ซื้อ ไม่ใช้ ไม่กิน ไม่จ่าย แต่ในความหมายที่แท้จริงนั้น คงน่าจะต้องเริ่มมาจากคำว่า ประหยัดให้เป็นเสียก่อนนั่นหมายถึง รู้จักเลือกซื้อ ใช้ กิน จ่าย เพื่อให้มีถึงคำว่าเหลือเก็บ หากเราสามารถสอนเด็กได้ตั้งแต่วัยเยาว์ คงไม่ต้องกลัวเรื่องอนาคตว่าเขาจะลำบาก การสอนให้เด็กได้รู้จักทำงานตั้งแต่วัยเยาว์นั้นก็สำคัญ เราสามารถสอนเด็กให้รู้ถึง การลงทุน การจ่ายไป วัดผลกำไร และเก็บกำไรนั้นมาแบ่งได้อีกหลายส่วนเพื่อการต่างๆ

การสอนให้เด็กรู้จักงานค้าขายแต่เด็ก ก็นับว่าเป็นประโยชน์มาก หากเราคิดเสียว่า การทำอะไรก่อนใครในวัยเดียวนั้นถือเป็นกำไร การเริ่มต้นจึงไม่น่าจะยากหากเราได้สอดแทรกทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่องของค้าขายบวกไปกับการเก็บออม จึงขอยกตัวอย่างง่ายๆเพื่อที่จะสามารถนึกตามได้อย่างละเอียด ดังเหตุการณ์นี้
ลูกอมแพคแบบ3 เม็ด5บาท

กิจกรรมง่ายๆที่เด็กๆทำได้ สนุก ได้เงิน มีรายได้ มีการวางแผน และเก็บออม เด็กสามารถที่จะนำลูกอมแพ็คใหญ่มาแบ่งใส่ถุงเล็กๆแม็กไว้กับริบบิ้นน่ารัก ก็น่ารักดี จึงขอแยกลำดับเหตุการณ์กับการเปรียบเทียบสถานการณ์จริง ดังนี้

1.จริงอยู่การลงทุนครั้งแรกซื้อลูกอมแพ็คใหญ่ เกิดจากการลงทุนของผู้ปกครองซึ่งหากเด็กโตขึ้นก็จะเกิดการเปรียบเทียบได้กับการกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง

2. การแบ่งจำนวนเม็ดออกแล้วแพ็คถุง นั่นหมายถึงการคำนวณแล้วว่า กำไรต่อเม็ดตกเท่าไร เปรียบเทียบได้กับว่า การจัดสรรปันส่วนวัตถุดิบอะไรเพื่อสิ่งที่ลงตัว ทำให้ไม่ขาดทุนหรือได้กำไร

3. การใช้ถุงแพ็คแบบไหนจึงจะดี รวมไปถึงลูกเล่นในการบรรรจุภัณฑ์ นั่นหมายถึง เทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่เด็กจะสนุกกับตรงนี้มากที่สุด เพื่อการพรีเซ้นต์ให้สินค้าตัวเองน่าขายมากขึ้น อาจจะเป็นการวาดหรือปริ้นจากคอมพิวเตอร์ ในส่วนนี้เด็กจะรู้สึกภูมิใจมากกว่า การนั่งเย็บแพ็ค การไปขายเสียอีก

4. การนำสินค้าออกขาย การชักชวนเพื่อนให้ซื้อ การที่เด็กต้องนำไปขายอะไรที่โรงเรียนแล้วนั้น ถือเป็นการยากมากเพราะเด็กยังคงมีความอาย นั่นหมายถึง การโดนดูถูกจากค่านิยมเก่าๆที่มองคนจากภายนอกว่า อาจจะไม่จะกินจึงต้องมาหารายได้ด้วยทางนี้ หากแต่เด็กต้องฝ่าฟันความคิดเหล่านั้นไปให้ได้ จนไปถึงขั้นการใช้วิธีต่างๆในการพูดชักชวนให้ซื้อ หากเด็กทำได้ ความน่าภูมิใจที่ได้รับจะมีค่ามากกว่าจำนวนเงินที่ได้มาเสียอีก จริงอยู่ว่าเด็กทุกคนจะมีค่าขนมมาจากผู้ปกครองโดยจำกัดอยู่แล้ว แต่หากเด็กสามารถขายได้จากการตั้งราคาที่ไม่สูงไปว่าฐานรายได้ ก็คงน่าจะดีหากผู้ปกครองได้ช่วยวางแผนในจุดนี้

5. การนำรายได้มาปันส่วน ในส่วนนี้นี่เองที่เราจะนำพาไปถึงคำว่าประหยัดและอดออม
เราควรแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ส่วนดังนี้

– ส่วนของการลงทุนครั้งต่อไป นั่นหมายถึงเราต้องเก็บส่วนหนึ่งไว้เพื่อซื้อสินค้ามาเติมให้เต็ม หรือหมายถึงการซื้อสินค้าใหม่ แบรนด์ใหม่ๆมาเพื่อการขายที่ไม่จำเจไปในทุกๆวันซึ่งก็แต่ละยี่ห้อราคาก็จะไม่เหมือนกัน การคำนวณถึงต้นทุนครั้งต่อไปจึงไม่ควรตายตัวนัก ควรสอนเด็กให้รู้จักเปรียบเทียบราคาสินค้าไปด้วยเพื่อการตัดสินใจที่คุ้มทุนที่มีอยู่

– แบ่งกำไรที่ได้รับไปเป็นการชำระหนี้ หากมีการกู้ยืมจากใครมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองเองก็ตาม การที่ยืมเงินจากคนกันเองนี่ก็สำคัญ นั่นหมายถึงเรายิ่งควรใส่ใจกับคำมั่นสัญญาว่าจะใช้คืนได้ประมาณวันนี้ การรักษาคำพูดจึงเข้ามามีบทบาทมากในเรื่องนี้ “ยืมมา หาได้ ใช้คืน” น่าจะเป็นข้อดีในการสร้างนิสัยที่ดีในเรื่องของการรักษาระยะเวลากู้ยืม พร้อมทั้งอาจจะสอนให้เด็กรู้จักคำนวณดอกเบี้ยไปด้วยในตัว หากเด็กสามารถรับเรื่องการคำนวณได้ดี

– การเก็บออม นั่นหมายถึง การสอนให้เด็กนำเงินที่เหลือจากการหักลบกลบหนี้ จากการทำบัญชี รายได้นำไปฝากธนาคาร การเลือกธนาคารก็สำคัญ ในส่วนนี้ผู้ปกครองจึงจะต้องมีบทบาทมากที่ต้องดูแลเลือกประเภทของการฝากตามแบบที่ธนาคารได้กำหนดไว้

ดังจะเห็นได้ว่าจากการขายสินค้าเพียงเล็กๆน้อยๆนั้นก็สามารถทำให้เกิดรายได้ได้ ยังไม่รวมไปถึงการสอนให้เด็กรู้จักค่าของเงิน ความยากในการหาเงิน รวมไปถึงเมื่อเราได้นำเงินไปซื้อสิ่งใดแล้วการรักษาของสิ่งนั้นให้ดี นับว่าเป็นส่วนสำคัญมากเลยทีเดียว ผู้ปกครองอาจนำเทคนิคง่ายๆนี้นำไปลองดุว่าลูกเราสามารถทำอะไรได้อีกมากกว่าการขอเงินไปซื้ออะไรๆที่ไม่จำเป็นเสียอีก ผลที่จะได้รับนั้นคงต้องรอให้เด็กเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆจนไปถึงวัยที่เขาสามารถกล้าลงทุนเอง นั่นจึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ จากทุนน้อยนั้นเราสามารถขยายยอดต่อไปได้อย่างไร ให้เราสามารถมีกำไรมากๆขึ้นไปอีก ผู้ปกครองควรมีเทคนิคการสอนให้เด็กรู้จักคิด รู้จักช่วยเหลือตนเอง จนไปถึงความคิดสร้างสรรค์ผลงานต่างๆออกมา นั่นคงทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากกว่าเด็กธรรมดาได้ดีอีกด้วย

เก้าอี้หัดนั่ง พัดลม USB สบู่อาหรับขิง